วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554

แท็บเล็ต Quad-Core รัน Win 8 โผล่!!!

ในระหว่างงาน Tech ED ทีจัดขึ้นในนิวซีแลนด์ บริษัท Microsoft ได้นำผลิตภัณฑ์ใหม่มากมายขึ้นมาโชว์ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ "แท็บเล็ต" ที่มาพร้อมกับโพรเซสเซอร์ "ควอดคอร์" และทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 8
ข้อมูลจากตัวแทนของ Microsoft กล่าวว่า แท็บเล็ตที่นำมาออกมาโชว์นี้ยังไม่มีการตั้งชื่อ แต่ในงานประชุมนักพัฒนา Build ที่บริษัทจะจัดขึ้นในในเดือนกันยายนน่าจะมีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมตลอดจนการสาธิตการใช้งานบางส่วน สำหรับภาพของ"แท็บเล็ต"ข้างล่างนี้ ทาง Microsoft ระบุว่ามันคือ "Quad Core Windows Slate" ซึ่งในงานประชุมของ Microsoft ที่กำลังจะมาถึงในเดือนหน้านี้ นอกจากจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Windows 8 หรือแม้แต่การส่งมอบเวอร์ชันพรีวิวแล้ว แท็บเล็ตตัวนี้น่าจะเป็นไฮไลต์ในการประชุมครั้งนี้ด้วย 
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวต่างๆ ไม่ยืนยันว่า Microsoft จะมีการแจกจ่ายให้นักพัฒนาไปทดสอบการใช้งานด้วย หรือไม่? แต่หลายคนก็คาดหวังว่า น่าจะมีการส่งมอบให้นักพัฒนาบางส่วนไปติดตั้ง และรัน Windows 8 ด้วย ซึ่งก็คงต้องติดตามกันต่อไป สำหรับหัวใจของ"แท็บเล็ต"ที่โผล่กลางงานประชุม Tech Ed ภายในจะใช้"ควอดคอร์"โพรเซสเซอร์ NVIDIA Kal-El  เนื่องจากเป็นโพรเซสเวอร์ตัวเดียวทีเริ่มมีการผลิตแล้ว ในขณะที่ชิป Quad-core ของ Qualcomm และ TI จะยังไม่มีการเปิดตัวจนกว่าจะถึงปี 2012 นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่า ASUS กำลังพัฒนา Eee Pad Transformer รุ่นใหม่ให้เป็นแท็บเล็ตตัวแรกที่ใช้ Kal-El ควอดคอ
ซีพียู และทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 8

จอบส์ลาออกดัน"ทิมคุ้ก"ซีอีโอแอปเปิ้ล

รายงานข่าวล่าสุด สตีฟ จอบส์ (Steve Jobs) ในวัย 55 ปีได้ลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของแอปเปิ้ล (Apple) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่เขาได้ลาพักรักษาตัวด้วยอาการป่วยโรคมะเร็งตับอ่อนตั้งแต่วันที่ 17 เดือนมกราคม 2011 ที่ผ่านมา โดยในแถลงการณ์ฉบับดังกล่าว Apple ระบุว่า ทิม คุ้ก (Tim Cook) จะเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็น CEO แทนจอบส์
ในจดหมายลาออกของจอบส์กล่าวว่า "ผมมักจะบอกกับทุกท่านอยู่เสมอว่า หากวันใดที่ผมรู้สึกว่า ไม่สามารถรับผิดชอบต่อความคาดหวังในฐานะซีอีโอของแอปเปิ้ลได้อีกต่อไป ผมจะเป็นคนแรกที่บอกให้คุณทราบ น่าเสียดายที่วันนั้นได้มาถึงแล้ว..." เขายังกล่าวต่อไปอีกด้วยว่า "แม้ผมจะลาออกจากการเป็นซีอีโอของแอปเปิ้ลแล้ว แต่ผมก็ยังอยากที่จะช่วยผลักดันบริษัทต่อไป หากคณะกรรมการบริษัทเห็นว่าเหมาะสม ในฐานะประธานของบอร์ด ผู้อำนวยการ และพนักงานคนหนึ่งของแอปเปิ้ล สำหรับผู้ที่จะสืบตำแหน่งต่อไป ผมแนะนำว่า ต้องเป็นผู้ที่จะดำเนินการตามแผนของบริษัทได้ และคนๆ นั้นคือ Tim Cook ที่สมควรจะเป็นซีอีโอของ Apple คนต่อไป"
เนื้อความในจดหมายของจอบส์ยังแสดงถึงความมั่นใจ และเชื่อว่า อนาคตของ Apple จะยังคงสดใส และสามารถรักษาความเป็นผู้นำนวตกรรมได้ต่อไป โดยเขาจะคอยเฝ้าดู และช่วยเหลือ ตลอดจนผลักดันให้ความสำเร็จนั้นๆ เกิดขึ้นภายใต้บทบาทใหม่ที่ได้รับผิดชอบ "ผมได้มีเพื่อนที่ดีทีสุดในชีวิตที่แอปเปิ้ล และผมขอขอบคุณทุกคนสำหรับการที่ได้ทำงานเคียงข้างพวกคุณตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผานมา...สตีฟ" การก้าวลงจากตำแหน่งของจอบส์จะมีผลต่ออนาคตของแอปเปิ้ล หรือไม่? และภายใต้การนำของซีอีโออย่าง Tim Cook จะยังคงรักษาตำแหน่งครองใจเหล่าสาวกของ Apple ได้แค่ไหน? iPhone 5 และ iPad 3 จะยังคงสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้บริโภคได้อย่างที่ Jobs ทำ หรือไม่?

“The Sims” เกมเฟสบุ๊คที่โตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์

 เดอะซิมส์โซเชี่ยว (The Sims Social) ได้กลายเป็นเกมที่ขายดีที่สุดของค่าย Electronic Arts ด้วยยอดขายถึง 4พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (แสนสองหมื่นล้านบาท!) โดยมีจำนวนผู้เล่นปัจจุบันอยู่ที่ 4.6 ล้านคนต่อวัน และสามารถเข้าเป็น ทอปเทนเฟสบุ๊คเกมได้อย่างรวดเร็ว (ตามหลังเกมเจ้าพ่ออย่าง ฟาร์มวิลล์หรือ ซิตี้วิลล์ ซึ่งมีผู้เล่นต่อวันอยู่ที่ประมาณ 14 ล้านคนต่อวัน)




เดอะซิมส์ ชาวเออาร์ไอพีหลายคนคงจะคุ้นเคยเกมนี้เป็นอย่างดี ด้วยการสร้างชีวิตใหม่ของผู้เล่นเข้าไปอยู่ในคอมพิวเตอร์ ต่อมาผู้เล่นสามารถออกแบบรูปร่างหน้าตาของคุณให้หล่อสวย เลือกเสื้อผ้าหรูหราเก๋ไก๋ได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ยังกำหนดให้ตัวละครมีความสามารถและอาชีพเพื่อทำงานหาเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันในเกมได้อีกด้วย และเมื่อผู้เล่นรวยมากขึ้น ก็สามารถซื้อของ อัพเกรดตัวเองให้ไฮโซตามฐานะที่ได้มา เช่น ซื้อบ้านหรู หรือรถสปอร์ท เป็นต้น
แต่ต้องไม่ลืมพื้นฐานการเล่นที่สำคัญที่สุดคือ ผู้เล่นต้องตอบสนองความต้องการพื้นฐานของตัวละครในเกมด้วย เช่น ต้องพาไปอาบน้ำก่อนไปทำงานหรือเข้านอน หรือหาข้าวกินเมื่อถึงเวลาหิว (หรือใช้อินเตอร์เนทเพื่อเข้าเวบไซท์เออาร์ไอพี :P)
แต่เดอะซิมส์โซเชี่ยวมีมากกว่านั้น โดยสามารถดึงเพื่อนๆในเฟสบุ๊คลงมาแจมกับผู้เล่นในเกมได้ด้วย ไม่ว่าชวนเพื่อนไปปาร์ตี้ กินข้าว ท่องเที่ยวดูหนัง หรือแม้กระทั่งออกเดทหรือไม่ชอบขี้หน้ากันในเกมก็ทำได้ แต่ถึงกระนั้นก็มีบางจุดในเกมที่ต้องปรับปรุง เช่น การดึงคนในครอบครัวบนเฟสบุ๊คที่ยังทำได้ไม่สมบูรณ์แบบนัก

ถึงอย่างไร “เดอะซิมโซเชี่ยว” ก็ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้นกับแนวคิดการจำลองชีวิตในเกมกับเพื่อนๆในเฟสบุ๊ค ด้วยจำนวนคนเล่นนับล้านคนต่อวัน งานนี้เอเอาร์ไอพี่คิดว่าฟาร์มวิวว์ได้มีหนาวกันบ้างล่ะกับคู่แข่งตัวฉกาจขนาดพี่บิ๊กเกมนี้

วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2554

iPad 2 mini ฮัลโหลได้+กล้องหน้

 ในขณะที่หลายคนกำลังชื่นชม iPad 2 ที่บาง-เบา และทำงานเร็วกว่าเวอร์ชันแรก บางทีคุณอาจจะสนใจอยากได้ iPad 2 ที่มีขนาดเล็กเท่ามือถือดูบ้าง เอ่อ...จะว่าไปมันก็มี iPod Touch อยู่แล้วไง? ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลย ประเด็นคือ หากคุณรู้สึกว่า ราคาแก็ดเจ็ตของ Apple ยังไม่ถูกพอที่คุณจะหาซื้อมาเป็นเจ้าของได้ แถมยังทำอะไรไม่ได้มากอย่างที่คุณต้องการ ลองดูแก็ดเจ็ตที่จะแนะนำกันต่อไปนี้ดีกว่าครับ บางทีมันอาจจะเป็นอะไรที่คุณกำลังมองหาอยู่ก็ได้


เว็บไซต์ YouTube เผยแพร่คลิปวิดีโอของอุปกรณ์ทีดูคล้าย iPad 2 แต่มีขนาดเล็กเท่ามือถือ โดยกรอบด้านหน้าจะมีสีขาว พร้อมกล้อง ส่วนสเป็กเครื่องแน่นอนว่าเทียบ Apple ไม่ได้ เจ้าแก็ดเจ็ตตัวนี้มีชื่อเรียกว่า E-Pad ทีมาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสแบบ resistive (ใช้เล็บ หรือสไตลัสจิ้มได้) ขนาด 3.5 นิ้ว กล้องด้านหน้า 0.3 ล้านพิกเซล และด้านหลัง 2 ล้านพิกเซล แถมยังมีแฟลช LED ที่ iPad 2 ไม่ได้ให้มาอีกด้วย ทำงานด้วย Java และสนับสนุนการรับสัญญาณทีวี (มีเสาอากาศ - -") ได้อีกต่างหาก E-Pad เป็นมัลติมีเดียโฟนระบบ GSM ที่รองรับการใช้งานได้ 2 ซิม ว้าว!!!
E-Pad จะมีความหนาถึง 0.5 นิ้ว ซึ่งหนากว่า iPad 2 (บอกแล้วว่า อย่าไปเทียบ :D) แต่เอาเป็นว่า หากคุณผู้อ่านอยากได้แก็ดเจ็ตตลกๆ ที่ทำได้สารพัด แถมยังมีหน้าตาคล้าย iPad 2 ขนาดเล็ก เอาไว้อำเพื่อนเล่น ก็เพียงแค่บินไปที่เสิ่นเจิ้น เพื่อซื้อหาจับจองเป็นเจ้าของได้ในราคา 70 เหรียญฯ หรือประมาณ 2,200 บาทเท่านั้น ลองชมคลิปสาธิตความสามารถในการทำงานของ E-Pad กันดูก่อนตัดสินใจ 


Sony Vaio รุ่นใหม่ท้าชน MacBook Air

แหล่งข่าวทีค่อนข้างเชื่อถือได้ระบุว่า Sony กำลังมีแผนที่จะปล่อยโน้ตบุ๊ค Vaio ดีไซน์บางเบาออกมาอีก 2 รุ่น โดยหมายมั่นปั้นมือให้เป็นคู่แข่ง MacBook Air โดยตรง ซึ่งทางบริษัทใช้โค้ดเนมเรียกโน้ตบุ๊ครุ่นนี้ว่า Hybrid PC ไม่เพียงแต่จะเป็นโน้ตบุ๊คบางเบาเท่านั้น แต่มันยังสามารถเชื่อมต่อกับด็อคกิ้ง เพื่อใช้งานเป็นเดสก์ทอปที่สมบูรณ์แบบได้อีกด้วย


Sony Vaio ที่มีโค้ดเนมว่า Hybrid PC จะทำงานด้วยโพรเซสเซอร์ Core i7 สตอเรจ SSD พร้อมพอร์ต HDMI 1.4 และ WiDi โดยตัวเครื่องจะมีน้ำหนักรวมประมาณ 2.5 ปอนด์ ซึ่งเมื่อเชื่อมต่อเข้ากับด็อคกิ้ง มันก็จะสามารถแปลงร่างเป็นเดสก์ทอปที่มาพร้อมกับฮาร์ดแวร์กราฟิก Radeon HD 6700M ไดรฟ์ Blu-day และช่องต่อ Ethernet ตลอดจนพอร์ต VGA และคอนเน็คเตอร์แบบใหม่ที่รวาม USB เข้ากับอะแดปเตอร์ AC นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบ daisy chain สำหรับการถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูงของ Intel ที่ชื่อว่า Light Peak (Thunderbolt ของ Apple) อีกด้วย ดังนั้นการเปิดตัวของ Hybrid PC อาจจะขัดแย้งกับสิ่งที่ Intel เคยให้ข่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า เทคโนโลยี Thunderbolt (light peak) ทางบริษัทได้ร่วมมือกับ Apple เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทาง Sony ระบุว่า มันไม่ใช่ Thunderbolt เนื่องจากทาง Sony เรียกมันว่า Light Peak ส่วนเรื่องของแบตเตอรี่ โน้ตบุ๊ค Hybrid ของ Sony จะสามารถใช้งานได้นาน 8 ถึง 16.5 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทได้ระบุว่า ต้องใช้แบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นมาด้วย หรือไม่? (ซึ่งหมายถึง น้ำหนักเครื่องที่เพิ่มขึ้นด้วย) 
สำหรับอีกรุ่นหนึ่งจะเป็นเน็ตบุีค Chrome OS ทีมีหน้าจอ 11.6 นิ้ว โดยแพลตฟอร์มที่จะใช้จะเป็น NVIDIA Tegra 2 เพื่อให้ระบบสามารถทำงานได้นาน 8 ชั่วดมง ในขณะที่มีการแสดงผลกราฟิกที่เร็ว หน่วยความจำเครื่อง 1GB แฟลชไดรฟ์ 16GB (แทน 8GB ตามสเป็ก เน็ตบุ๊ค Chrome ที่ทางกูเกิดกำหนดขั้นต่ำไว้) ในขณะเดียวกัน น้ำหนักของเน็ตบุ๊ค Chrome OS จาก Sony จะอยู่ที 2.2 ปอนด์ (1 กิโลกรัม) ทั้งนี้สเป็กของเครื่องยังคาดว่า จะมาพร้อมกับ 3G หรือ 4G ด้วยเลย อย่างไรก็ดี ทั้ง Hybrid PC และ Chrome OS เน็ตบุ๊ค จะได้รับการดีไซน์ให้บางเฉียบ โดยจะอยู่ในหมวดผลิตภัณฑ์ Ultraportable ดูเหมือน MacBook Air ของ Apple กำลังจะถูกแย่งแชร์จากฝั่งผู้ผลิตพีซี เช่นเดียวกับ iPad 

Amazon เล็งพัฒนา"แท็บเล็ต" Kindle?

Android App Store ของ Amazon กำลังจะเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในวันอังคารที่่ 22 มีนาคม ศกนี้ ซึ่งนั่นหมายความว่า ทางบริษัทกำลังพุ่งเป้าไปที่ตลาด Android อย่างจริงจัง แถมทางร้านยังมีข้อตกลงพิเศษกับทางบริษัทผู้พัฒนาเกมส์ยอดฮิตอย่าง Angry Birds อีกต่างหาก พร้อมทั้งเปิดรับนักพัฒนาที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Android อีกด้วย หรือว่า Amazon กำลังจะพัฒนาแท็บเล็ต Kindle ทีทำงานด้วย Android ในอนาคตตอันใกล้นี้

นักวิเคราะห์รายงานว่า แท็บเล็ต Kindle จะเป็นคู่แข่งที่่น่ากลัวที่สุดสำหรับ iPad ในขณะที่ทางแผนก Lab126 ของ Amazon ที่รับผิดชอบในการออกแบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สำหรับ Kindle กำลังเปิดรับพนักงานที่มีประสบการณ์ทางด้าน Android ซึ่งคู่แข่งอย่าง NOOK Color เครื่องอ่านอีบุ๊คจาก B&N ก็ยังใช้ Android ด้วยเลย ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องประหลาดใจอะไรหาก Amazon จะผลักดันให้ Kindle เป็นแบบเดียวกัน หรือมากกว่านั้นด้วยการทำให้มันเป็น"แท็บเล็ต" Android เพื่อชนกับ iPad ไปเลย 

Jeff Bezos ซีอีโอของ Amazon ปฎิเสธว่า ทางบริษัทไม่ได้สนใจที่จะต่อสู้กับ iPad แต่การรุกคืบของธุรกิจในช่วงทีผ่านมาดูจะตรงข้าม โดยล่าสุดทางบริษัทได้เข้าซื้อ TouchCo ซึ่งนั่นหมายความว่า บริษัทมีแผนที่จะผลิตอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้าย"แท็บเล็ต"ที่ทำงานด้วยหน้าจะสัมผัส อีกทั้งโฆษณาของ Amazon Kindle ที่เหน็บแนม iPad ที่ไม่สามารถดูกลางแจ้งได้ เนื่องจากหน้าจอมีการสะท้อนแสง แล้วอย่างนี้จะบอกว่า ไม่ได้มอง iPad เป็นคู่แข่งได้อย่างไร?

วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2554

ใช้ไอโฟนแฮคบิลบอร์ดไทม์สแควร์

รายงานข่าวนี้ อาจจะต้องใช้การสังเกตสักนิดหนึ่ง เพราะบางทีสิ่งที่คุณเห็นอาจจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้ แต่ถ้ามันจริงก็น่าทึ่งไม่น้อยทีเดียวครับ เรื่องของเรื่องก็คือ คลิปวิดีโอบน YouTube จากยูสเซอร์ BITcrash44 ได้สาธิตการแฮคป้ายโฆษณา หรือ"วิดีโอ"บิลบอร์ดในบริเวณ Time Square ให้แสดงคลิปที่บันทึกวิดีโอภาพของเขาด้วย iPhone 4 โดยอุปกรณ์ที่ใช้ในการส่งสัญญาณภาพวิดีโอจากไอโฟนให้ไปปรากฎบนบิลบอร์ดนั้นมีขนาดเล็กมากจนแทบไม่น่าเชื่อว่า มันจะสามารถทำงานได้ดังที่แสดงให้เห็นในคลิป
แฮคเกอร์หนุ่มรายนี้มีวิธีการสาธิตอุปกรณ์แฮคที่สามารถส่งสัญญาณวิดีโอจาก iPhone 4 ให้ไปเล่นทับวิดีโอที่กำลังเล่นอยู่บนป้ายโฆษณาขนาดต่างๆ ในย่าน Time Square ได้อย่างน่าสนใจทีเดียว โดยเขาเริ่มต้นจากการส่งภาพวิดีโอของเขาเข้าไปเล่นทับบนป้ายขนาดเล็กก่อน จากนั้นก็ส่งสัญญาณภาพไปบนบิลบอร์ดที่ใหญ่ขึ้น แต่ที่เท่มากๆ ก็คือ อันสุดท้ายที่เขาแฮคป้ายโฆษณาขนาดยักษ์ของ CNN ให้แสดงคลิปวิดีโอที่เป็นภาพตัวเขาขึ้นไปเล่นแทน โดยมีอุปกรณ์ตัวช่วยที่ทำให้ภาคส่งสัญญาณสามารถเข้าไปใกล้ป้ายโฆษณาได้ ส่วนจะเป็นอะไรนั้น ไปดูเฉลยด้วยสายตาคุณเองจากในคลิปที่นำมาฝากดีกว่าครับ ว่าแต่หลังจากดูจบแล้ว คุณผู้อ่านคิดว่า มันเป็นเรื่องจริง หรือฝีมือนักตัดต่อคลิปวิดีโอกันแน่ล่ะครับ



ยอดดาวน์โหลด IE9 2.3 ล้านใน 24 ชม.

     เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Microsoft ได้เปิดตัวบราวเซอร์ Internet Explorer 9 โดยทางบริษัทได้เปิดเผยว่า IE9 มียอดดาวน์โหลดจากผู้ใช้ทั้งสิ้น 2.35 ล้านครั้งภายใน 24 ชั่วโมง หรือคิดเป็น 27 ครั้งต่อวินาที ซึ่งหากเทียบกับ IE9 เวอร์ชันเบต้ารุ่นแรกที่ปล่อยออกมาจะสามารถทำได้ 1 ล้านครั้งเท่านั้น
     แม้ iE9 เวอร์ชันสมบูรณ์ที่เปิดให้ดาวน์โหลดในวันอังคารจะสามารถทำยอดดาวน์โหลดเฉลี่ย 98,000 ครั้งต่อชั่วโมง "เราต้องขอขอบคุณผู้ใช้ทั่วโลกที่ดาวน์โหลด IE9 กันอย่างคับคั่ง" Ryan Gavin ผู้อำนวยการอาวุโสแผนก IE ของ Microsoft โพสต์ไว้ในบล็อก อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบยอดดาวน์โหลด IE9 กับคู่แข่งแล้วยังถือว่า ห่างไกลกันพอสมควร อย่างเช่นเมื่อในปี 2009 เพียงแค่ 2 - 3 ชั่วโมงที่เปิดให้ดาวน์โหลด Firefox 3.5 ตัวเลขก็ทะลุ 1 ล้านแล้ว และก่อนหน้านั้น Firefox 3.0 ก็มียอดดาวน์โหลดสูงถึง 8 ล้านครั้งภายใน 24 ชั่วโมง
Internet Explorer 9 เป็นบราวเซอร์เวอร์ชันล่าสุดที่ได้รับการพัฒนาในด้านต่างๆ ตั้งแต่เรื่องของส่วนติดต่อผู้ใช้ที่เรียบง่าย การสนับสนุน HTML5 และฟังก์ชันรักษาความเป็นส่วนตัวด้วย do-not-track โดยสามารถดาวน์โหลดได้ที่ BeautyoftheWeb ทั้งนี้ทาง Microsoft ตั้งความหวังไว้มากทีเดียวสำหรับ IE9 อย่างไรก็ตาม คู่แข่งอย่าง Mozilla ก็เตรียมเข็น Firefox 4 เวอร์ชันสมบูรณ์ออกมาแตะเบรค IE9 ในวันที่ 22 มีนาคม ศกนี้

วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2554

Driver HP Pavilion g3070l

หลังจากที่ผมได้มีประสบการณ์ลงวินโดว์แล้วเข้าไปดาว์โหลด Driver HP Pavilion g3070I ที่ hp Thailand ไม่เจอครับ แปลกมากงานเข้าล่ะทีนี่ เพราะปกติDriverจะหาดาว์โหลดได้จากเว็บไซต์ผู้ผลิต งานนี้ก็เลยต้องพึ่ง google ในการช่วยหา Driver แล้วผมก็พบว่า มีคนประสบปัญหาแบบมากเลทีเดียว งานนี้ผมก็เลย เอามาแจกครับ สำหรับเพื่อนๆที่กำลังหาก็เชิญดาว์โหลดได้จากลิงค์ข้างล่างนี้น่ะครับ

ดาว์โหลด Driver http://www.mediafire.com/komgrid


วันเสาร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2554

ระวังโจ๋เฟซบุ๊คแฮคอีเมล์แฉภาพนู้ดสาว

รายงานข่าวชิ้นนี้ อาจทำให้สาวๆ ที่เล่นเฟซบุ๊ค (Facebook) ต้องระวังกันให้ดี เรื่องของเรื่องก็คือ George Bronk โจ๋มะกันวัย 23 ปีได้ใช้โปรไฟล์ใน Facebook เพื่อแฮค (Hack) เข้าไปในอีเมล์ของสาวๆ จากนั้นพยายามค้นหาภาพโป๊ (nude image) ของพวกเธอ และเมื่อพบก็จะส่งภาพเหล่านั้นไปให้เพื่อนๆ ทุกคนใน Address book ของเหยื่อรายนั้นๆ โดย Bronk ได้ให้เหตุผลที่เขาทำไปนั้นว่า "มันสนุกดี"
George Bronk พุ่งเป้าไปที่เหยื่อผู้ใช้ Facebook ที่เป็นผู้หญิง ซึ่งเปิดเผยอีเมล์ให้สาธารณชน (public e-mail address) นอกจากอีเมล์แล้ว เขายังพยายามรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่พบในโปรไฟล์ และข้อความที่เหยื่อพูดคุยกับคนอื่นๆ ใน Facebook โดยเฉพาะสิ่งที่พวกเธอชื่นชอบ หรือให้ความสำคัญเช่น สีที่ชอบ อาหารโปรด ชื่อกลางของพ่อ ฯลฯ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกใช้ในการตอบคำถามของระบบรักษาความปลอดภัยของ บัญชีผู้ใช้อีเมล์ ด้วยข้อมูลทั้งสองส่วนี้ Bronk ก็สามารถแฮคบัญชีผู้ใช้ของเหยื่อสาวๆ ได้นับโหลแล้ว
หลังจากที่เขาแฮคบัญขีผู้ใช้อีเมล์ของเหยื่อได้เป็นผลสำเร็จ Bronk ก็จะแอบเข้าไปดูในโฟลเดอร์ "sent" (อีเมล์ที่ส่งออกไปแล้ว) ของพวกเธอ เพื่อมองหาภาพ หรือคลิปนู้ดของเหยื่อ และเมื่อพบก็จะนำภาพเหล่านั้นแนบส่งไปให้กับทุกคนใน รายชื่อผู้ติดต่อ (address book) ของเหยื่อ ที่แย่กว่านั้นก็คือ เหยื่อบางรายได้รับอีเมล์ขู่ว่า เขาจะเผยแพร่ภาพนู้ดของเธอสู่สาธารณะ ถ้าไม่ยอมส่งภาพนู้ดมาให้เขาเพิ่ม ซึ่งทั้งหมดนี้ Bronk ให้เหตุผลว่า เขาทำไปเพราะ"ความสนุก"เท่านั้น บรรดาเหยื่อที่โดนเล่นงานกล่าวว่า มันเสมือนกับการที่พวกเธอโดนข่มขืนเลยทีเดียว แต่ในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็ สามารถคุมตัว Bronk ได้พร้อมกับไฟล์ภาพนู้ดของเหยื่อสาวๆ ที่แนบมากับอีเมล์ 172 ไฟล์ ได้ยินอย่างนี้แล้ว สาวๆ ทีใช้ facebook ก็รีบไปเปลี่ยน privacy settings ให้เห็นได้เฉพาะเพื่อน (Friends Only) เท่านั้น แล้วก็อย่าลืมเปลียนพาสเวิร์ดอีเมล์ไม่ให้เป็นคำง่ายๆ ด้วยล่ะ และก็ภาพส่วนตัวมากๆ ก็ไม่จำเป็นอย่าส่งให้ใครบนเน็ตเด็ดขาด...ด้วยความปรารถนาดีจากเว็บไซต์ arip.co.th :D